กินเลย....เพื่อสุขภาพผมที่ดี
เส้นผมจะสุขภาพดี ต้องดีจากภายใน อาหารการกินนี่แหละ ตัวช่วยสำคัญ
เทคนิคช่วยให้ผมยาวเร็วขึ้น
[อาการและการป้องกันรักษาการเกิดรังแค]
เพื่อให้คุณได้เข้าใจเกี่ยวกับภาวะในการเกิดรังแคเพื่อทำการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาการและการรักษา
รังแคเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนมักจะต้องพบเจอเหมือนกันทั้งนั้น ส่วนสาเหตุก็เกิดจากการหลั่งสารซีบัมในปริมาณมากบนหนังศีรษะของเรา และถึงแม้ว่าจะเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนจะต้องเจอแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะคะ ต่อไปนี้จะเป็นอาการของการเกิดรังแคและข้อควรปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะดังกล่าวขึ้น
อาการ
อาการที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือมีสะเก็ดสีขาวบนหนังศีรษะ บนเส้นผม และบนไหล่ของคุณ แต่อย่างไรก็ตามอาจมีอาการบางอย่างที่คุณรู้สึกได้แต่กลับมองไม่เห็น อาทิเช่น หากคุณรู้สึกว่าบริเวณหนังศีรษะของคุณตึง แห้ง และระคายเคือง ก็อาจเป็นไปได้ว่ามีรังแคเกิดขึ้น และการที่คุณเกาศีรษะก็จะเป็นการเร่งให้มีรังแคเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
การรักษา
การใช้แชมพูขจัดรังแคที่มีประสิทธิภาพเป็นวิธีการรักษาภาวะการเกิดรังแคได้ นอกจากนี้ คุณสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อช่วยลดการเกิดรังแคได้เช่นกัน คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้คุณมีสุขภาพผมและหนังศีรษะที่ดีขึ้น
การเกิดรังแคอาจจะขยายผลออกไปอย่างกว้างขวางได้ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ อาทิ สภาพสิ่งแวดล้อม ความเครียด และการรับประทานอาหาร โดยแร่ธาตุสังกะสีมีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของผิวหนังและเส้นผมของคุณ – ทั้งนี้ หากร่างกายไม่ได้รับแร่ธาตุดังกล่าวแล้ว การเจริญเติบโตของผิวหนังและเส้นผมก็จะหยุดลงได้ในทันที แร่ธาตุสังกะสีเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการให้เส้นผมมีสุขภาพแข็งแรง และคุณจะพบแร่ธาตุสังกะสีเหล่านี้ได้ในหอยนางรม ชีสเนยแข็ง ตับ ปลากระป๋อง ขนมปังโฮลวีท ไข่ เนื้อออร์แกนิก และแชมเปญ และยังรวมถึงการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็ยังสามารถช่วยลดปัญหารังแคได้เช่นกัน
รังแคเป็นภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ กับคนในช่วงวัยหนุ่มสาว และมักสร้างความระคายเคืองแก่คนนั้นๆ ความรุนแรงของการเป็นรังแคอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว โดยทั่วไปแล้วรังแคจะสามารถรักษาได้อย่างง่ายดายโดยการใช้แชมพูที่ใช้รักษารังแคโดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาเส้นผมที่เป็นสูตรป้องกันรังแคนั้นจะมีส่วนผสมของแร่ธาตุไพริธิโอนสังกะสี ซึ่งแพทย์ผิวหนังถือว่าเป็นตัวยาที่ใช้สำหรับการรักษารังแคได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่เป็นรังแคให้ใช้แชมพูประเภทนี้สระผมเป็นประจำเพื่อไม่ให้หนังศีรษะของคุณกักเก็บน้ำมันเอาไว้ ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะทำให้อาการเกิดรังแคอยู่ในสภาพที่รุนแรงยิ่งขึ้น
ดูแลสุขภาพผมแบบอายุรเวช
ข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพผม ตามหลักอายุรเวช
1การสระผม
1.1 ควรสระผมเป็นประจำทุกเช้าด้วยแชมพูอ่อน
หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูที่ผสมสารชะล้างรุนแรง ( เช่น โซเดี้ยม ลอริ่ล ซัลเฟต )
1.2 ไม่ควรสระผมในตอนเย็น (หากเหลื่ออกมากในตอนเย็นให้ใช้ผ้าซับ)
1.3 ไม่ควรใช้น้ำร้อนในการสระผม
1.4 ไม่ควรใช้แชมพูหรือครีมนวดผมที่ผสมสารก่อฟิล์มอุดตัน เช่น Lanolin
หรือ แชมพูที่ผสมครีมนวดผม
2 การดูแลเส้นผม
2.1 ไม่เช็ดถูผมด้วยผ้าหรือหวีผมแรง ๆ ในขณะที่ผมเปียก เพราะจะทำให้ผมอ่อนที่กำลังงอกใหม่หลุดร่วงได้ง่าย
ควรปล่อยให้แห้งเอง หากจำเป็นควรเป่าโดยให้แรงลมขนานกับพื้นผิว ของหนังศีรษะด้วยความร้อนที่ไม่มากเกินไป
ไม่ควรใช้ลมเป่าหนังศีรษะโดยตรง
2.2 หวีผมตามแนวเส้นผมด้วยหวีไม้ซี่ไม่ถี่เกินไป (ไม่หวีย้อนเสยไปทางด้านหลัง)
แล้วค่อยจัดทรงผมด้วยหวีซี่ถี่ตามแนวที่ต้องการ
2.3 ควรหวีผมด้วยหวีไม้หรือหวีเขาควาย ที่ไม่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิต ซึ่งมักเกิดจากการใช้หวีพลาสติกหรือหวีโลหะ
2.4 ไม่ออกแรงใด ๆ กับเส้นผมหรือหนังศีรษะ เช่น หวีผมแรง ๆ บ่อย ๆ หรือถูนวดศีรษะอย่างแรงด้วยปลายนิ้วแบบวนก้นหอย
(ให้ใช้ฝ่ามือกดคลึงเบา ๆ ในกรณีที่ต้องการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต)
2.5 ไม่รัดผม รวบ ถักเปียหรือม้วนผมแน่นเกินไป และไม่ควรยีผม
3 อาหาร สุขลักษณะในการเลือกรับประทานอาหาร
3.1 ควรรับประทานอาหารที่เสริมสร้างบำรุงผม สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟักทอง
ยีสต์ ผลไม้สด งา สาหร่าย แครอท อัลมอนด์ ถั่วต่าง ๆ หอยนางรม และสมุนไพรต่าง ๆ
3.2 หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ทำให้เสี่ยงต่อผมร่วง ผมหงอก เช่น อาหารรสเผ็ดร้อน
หรือเค็มจัด กระถิน ไก่ที่ฉีดฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ช็อกโกแลต แอลกอฮอล์ ผงชูรส
เนย (ควรกินเนยบริสุทธิ์ที่เรียกว่า “ เนยกี( Ghee)”
จะดีกว่า
4 การปฏิบัติตน
4.1 หลีกเลี่ยงการสะสมของธาตุไฟ ซึ่งทำให้เกิดเซลเสื่อมสภาพ อันเป็นสาเหตุของผมร่วง
ผมหงอก เช่น การนอนดึกเกิน 4 ทุ่ม ความโกรธ ความเครียด การรับประทานอาหารรสจัด
และการมีเพศสัมพันธ์เกินควร
4.2 ควรนอนศีรษะต่ำ (ไม่หนุนหมอนสูง หรือยกเท้าขึ้นสูงกว่าศีรษะชั่วขณะ เพื่อให้เลือดไปเลี้ยง
ได้ทั่วศีรษะ
4.3 ออกกำลังกายแต่พอควร ลดความเครียด เช่น ฝึกสมาธิแบบที.เอ็ม
4.4 หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีที่ก่อการระคายเคือง เช่น น้ำคลอรีน ยาย้อมผม
ยาดัดผม หรือแชมพูที่มีส่วนผสมของสารโซเดี้ยม ลอริ่ล ซัลเฟต
4.5 หลีกเลี่ยงการอบไอน้ำที่อุณหภูมิสูงซึ่งจะทำให้ผมเสีย
4.6 ควรเปลี่ยน หรือทำความสะอาดปลอกหมอน หวี ผ้าเช็ดผม ทุกวัน ในกรณีที่มการติดเชื้อไรขน
บทความโดย ภ . ญ . ชุลีรัตน์ ใจยอดศิลป์


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น